Oolong Courtyard Kung Fu School (2018) กิ๋ว-ก๋า-กิ้ว จิ๋วแต่ตัว พากย์ไทย เต็มเรื่อง

Oolong Courtyard: Kung Fu School เป็นภาพยนตร์ตลกแอ็กชั่นที่เล่าเรื่องราวของ Wei นักต้มตุ๋นตัวจิ๋วที่มีใจดีแต่ชอบหลอกลวงผู้คน โดยการแกล้งทำเป็นถูกรถชนแล้วเรียกค่าเสียหาย เขาได้พบกับ Cheng Ming Xing อีกนักต้มตุ๋นคนหนึ่ง และทั้งคู่ตัดสินใจร่วมมือกันทำธุรกิจหลอกลวงนี้ แต่แล้วพวกเขากลับไปหลอกลวงผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นแฟนของ Brother Blast หัวหน้าแก๊งค์อันตราย เมื่อ Brother Blast ทราบเรื่อง เขาจึงบังคับให้ Wei และ Ming Xing ต้องไปขโมยสมบัติศักดิ์สิทธิ์จากวัดอู่หลง ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียง ทั้งสองจึงต้องแฝงตัวเข้าไปในวัดอู่หลงในฐานะลูกศิษย์ใหม่ แต่พฤติกรรมแปลกๆ ของพวกเขากลับทำให้ลูกศิษย์คนอื่นๆ เกิดความสงสัย โดยเฉพาะ Xiao Wen ลูกศิษย์อาวุโสที่คอยจับตาดูพวกเขาอยู่ตลอดเวลา Master Chang Mei อาจารย์ใหญ่ของวัดเป็นคนใจดีและมีปรีชาญาณ เขารับรู้ว่า Wei และ Ming Xing มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ แต่เขาก็ยังให้โอกาสพวกเขาได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้และปรัชญาของการใช้ชีวิต ระหว่างที่อยู่ในวัด ทั้งสองได้พบกับเด็กๆ กำพร้าที่น่ารักและซุกซน รวมถึงลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรื่องราวเริ่มซับซ้อนขึ้นเมื่อ Wei และ Ming Xing ค่อยๆ หลงรักในบรรยากาศของวัดและเริ่มเรียนรู้คุณค่าของมิตรภาพ ความซื่อสัตย์ และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย พวกเขาต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ระหว่างการทำตามคำสั่งของ Brother Blast หรือปกป้องวัดและเพื่อนๆ ที่เริ่มมีความผูกพันด้วย ในวัดอู่หลงยังมีลูกศิษย์เด็กพิเศษคนหนึ่งที่มีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้เหมือนบรูซ ลีตัวจิ๋ว ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับทุกคนด้วยท่าทางและการเคลื่อนไหวที่เลียนแบบตำนานศิลปะการต่อสู้ได้อย่างสมจริง ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานความตลกขบขันแบบสามเสา การต่อสู้ที่สนุกสนาน และข้อคิดเรื่องการเติบโตทางใจของตัวละคร พร้อมด้วยฉากแอ็กชั่นที่น่าตื่นเต้นและเทคนิคศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลาย

ข้อมูลภาพยนตร์

ชื่อเรื่อง: Oolong Courtyard: Kung Fu School (กิ๋ว-ก๋า-กิ้ว จิ๋วแต่ตัว) ปีที่ออกฉาย: 2018 ประเภท: ตลก, แอ็กชั่น, ศิลปะการต่อสู้ ผู้กำกับ: Chu Yen-Ping (Kevin Chu) นักเขียนบท: Chu Yen-Ping ความยาว: 103 นาที (1 ชั่วโมง 43 นาที) ประเทศผู้ผลิต: จีน ภาษา: จีนกลาง วันเข้าฉาย: 24 สิงหาคม 2018

ข้อมูลผู้กำกับ

Chu Yen-Ping (Kevin Chu) – ผู้กำกับชาวไต้หวันที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการภาพยนตร์ เป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในแนวตลกศิลปะการต่อสู้และแอ็กชั่นคอมมีดี้ รู้จักจากผลงานซีรีส์ Shaolin Popey ในปี 1994 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการกลับมาของเขาหลังจากห่างหายไป 24 ปี โดยยังคงสไตล์การกำกับที่ผสมผสานความตลกขบขันแบบดั้งเดิมกับแอ็กชั่นศิลปะการต่อสู้

นักแสดงหลักและบทบาท

Ng Man-Tat (หงมันต๊าต) รับบท Master Chang Mei – อาจารย์ใหญ่วัดอู่หลงที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี นักแสดงชื่อดังจากฮ่องกงที่เคยร่วมงานกับสตีเฟน โจว์ในหลายเรื่อง แต่หลังจากมีปัญหาส่วนตัวจึงมาร่วมงานในเรื่องนี้แทน

Hao Shao-Wen (เฮาเส่าเหวิน) รับบท Xiao Wen – ลูกศิษย์อาวุโสของวัดที่เติบโตมาจากเด็ก นักแสดงเด็กดาราที่เคยแสดงในภาพยนตร์ Shaolin Popey ต้นฉบับ ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วและกลับมาแสดงในบทลูกศิษย์อาวุโส

Wang Ning (หวังหนิง) รับบท Wei – นักต้มตุ๋นสองคนที่ชอบแกล้งทำเป็นเจ็บเพื่อเรียกค่าเสียหาย ตัวละครหลักที่ต้องแฝงตัวเข้าไปในวัดเพื่อขโมยสมบัติ

Kong Lianshun (กงเหลียนซุน) รับบท Cheng Ming Xing – เพื่อนร่วมทีมของ Wei ที่ต้องมาร่วมแผนการขโมยสมบัติจากวัดอู่หลง

Eric Tsang (เอริค ส่าง) รับบท Brother Blast – หัวหน้าแก๊งค์และคนร้ายหลักที่บังคับให้ Wei และ Ming Xing ไปขโมยสมบัติ การปรากฏตัวของเขาในเรื่องนี้เป็นความประหลาดใจเพราะไม่ได้ปรากฏในตัวอย่าง

Ryusei Imai (ริวเซย์ อิไม) รับบท นักเรียนวัดอู่หลง – “มินิ บรูซ ลี” เด็กชาวญี่ปุ่นวัย 8 ขวบที่ขึ้นชื่อเรื่องการเลียนแบบบรูซ ลีได้อย่างสมจริง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานแสดงครั้งแรกของเขา

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด

การกลับมาของ Ng Man-Tat และ Hao Shao-Wen หลังจากห่างหาย 24 ปี การแสดงครั้งแรกของ Ryusei Imai “มินิ บรูซ ลี” ชาวญี่ปุ่น ฉากตลกขบขันแบบสามเสาที่สร้างเสียงหัวเราะ การต่อสู้ศิลปะการต่อสู้ที่สนุกสนานและสร้างสรรค์ ฉากแอ็กชั่นในตอนจบที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น การปรากฏตัวแบบเซอร์ไพรส์ของ Eric Tsang บทเรียนชีวิตและข้อคิดเรื่องมิตรภาพและความซื่อสัตย์ เด็กกำพร้าตัวน้อยที่น่ารักและสร้างความประทับใจ

ความพิเศษของภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อที่ล่าช้ามานาน 24 ปี จากซีรีส์ Oolong Courtyard ดั้งเดิม โดยยังคงรูปแบบและจิตวิญญาณเดิมไว้ แต่มีเรื่องราวใหม่ที่สร้างสรรค์และสนุกสนาน การมีส่วนร่วมของ Ryusei Imai เด็กชาวญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องการเลียนแบบบรูซ ลี ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากแฟนศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก ภาพยนตร์ใช้การผสมผสานระหว่างความตลกแบบดั้งเดิมของเอเชียกับเทคนิคการถ่ายทำสมัยใหม่ สร้างความสนุกสนานที่เหมาะสำหรับทุกวัย และยังมีข้อความที่มีคุณค่าเรื่องการให้อภัย การเปลี่ยนแปลง และการเติบโตของจิตใจ

เหมาะสำหรับผู้ชม

ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย โดยเฉพาะครอบครัวที่ต้องการหนังที่ให้ความบันเทิงและมีข้อคิด เนื้อหาไม่มีความรุนแรงจนเกินไป และเน้นไปที่ความตลกขบขันและการเรียนรู้ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหนังตลกเอเชีย หนังศิลปะการต่อสู้ และผู้ที่เป็นแฟนของนักแสดงหลัก

ผลตอบรับ

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้รับรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศสูงมากในสหรัฐอเมริกา (19,100 ดอลลาร์) แต่ได้รับความนิยมในเอเชีย โดยเฉพาะจากแฟนของซีรีส์ต้นฉบับและผู้ที่ชื่นชอบความตลกแบบดั้งเดิม ภาพยนตร์ได้รับคำชมในเรื่องการแสดงของ Ryusei Imai และการกลับมาของนักแสดงเดิม แต่ก็มีคำวิจารณ์บางส่วนเรื่องการเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยเชื่อมโยงกัน